1.Sophisticated Simplicity
อุตสาหกรรมความงานจะพบกับการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากผู้บริโภคต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพสูง ผลสำรวจผู้บริโภคหญิงชาวจีน 72% ให้ความเห็นว่าแบรนด์ควรให้ผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมเพื่อยืนยันการเคลมที่พวกเขากล่าวอ้าง
What’s Now :
แบรนด์ต้องมีความโปร่งใสและสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน สอดคล้องกับแนวคิด ‘Less but better’ จะทำให้แบรนด์โดดเด่นขึ้นมา เช่น การใช้ส่วนผสมที่เรียบง่ายอย่าง Niacinamide แต่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งข้อมูลสินค้าที่ออกสู่ตลาดตั้งแต่ 1998 – 2022 ส่วนผสม Niacinamide มีแนวโน้มการใช้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
What’s Next :
ส่วนผสมที่มีผลทางวิทยาศาสตร์รับรองจะเป็นที่น่าสนใจ เช่น การใช้ส่วนผสมน้ำหนักโมเลกุลน้อยเพื่อให้ดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น หรือการพัฒนาเนื้อสัมผัสให้มีความเปลี่ยนแปลงเมื่อใช้งาน เช่น มีการแตกตัวเมื่อนวดบนผิว
Future :
แบรนด์ต่างๆยังคงคิดค้น “Ingredients of the future” ต่อไป แต่ยังคงต้องคำนึงถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมในการพัฒนาด้วย เช่น RetiLife™ ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย Givaudan เป็น 100% Natural-Origin Retinol จากกระบวนการ Biotechnology
2. Neuroglow
ความเป็นอยู่ที่ดี (Wellness) จะเชื่อมโยงกันระหว่างจิตใจและรูปลักษณ์ทางกายภาพภายนอก ผลสำรวจของผู้บริโภคชาวอเมริกัน 33% ยินดีที่จะจ่ายมากขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ Beauty & Personal Care ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพด้านอารมณ์
What’s Now :
แบรนด์หรือบริษัทต่างๆกำลังทำความเข้าใจกับความเครียดในแต่ละวันว่ามีความเกี่ยวโยงอย่างไรกับผิวหนัง เช่น การทดสอบถึงประสิทธิภาพการนอนหลับกับผิวหนัง นอกจากนี้หลังการระบาดใหญ่ของ Covid-19 เกิดความต้องการวิตามินและแร่ธาตุเพิ่มขึ้น และส่วนผสม Probiotic ที่ให้ผลดีต่อสุขภาพลำไส้สัมพันธ์ต่อสุขภาพผิวที่ดีจะเป็นที่สนใจ
What’s Next :
ผลิตภัณฑ์จากแนวคิด Neurocosmetic (ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ช่วยให้ผิวสุขภาพดีโดยมีการทำงานร่วมกับสมองผ่านสารสื่อประสาทที่อยู่ในเซลล์ผิว) และ Psychodermatology (โรคทางจิตวิทยาผิวหนังเกิดจากสภาวะจิตใจหรือความเครียด) เริ่มเป็นที่สนใจของเทรนด์การดูแลผิว
Future :
ความท้าทายของแบรนด์คือการทำให้เห็นถึงความแตกต่างและประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ที่ผ่านแนวคิด Neurocosmetics และ Psychodermatology เพื่อโน้มน้าวใจผู้บริโภค
3. Beauty-AI
Artificial intelligence (AI) จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมความงาม โดยทำให้มีความเฉพาะเจาะจงต่อบุคคลมากขึ้น สามารถให้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น แต่ต้องมีการกำกับดูแลด้านความโปร่งใสซึ่งจะมีความสำคัญต่อการเติบโตได้ในอนาคต ผลสำรวจผู้บริโภคชาวอเมริกา 62% สนใจ Hyper-personalised Beauty & Personal Care Products และอีก 28% ยินดีที่จะจ่ายมากขึ้นเพื่อผลิตภัณฑ์เหล่านี้
นอกจากนี้ยังสามารถค้นพบส่วนผสมใหม่ๆจากการใช้ประโยชน์จาก AI เช่น Revela Skin Fibroquin Essence ที่มีส่วนผสมของ Pro-collagen Molecule ซึ่งถูกค้นพบโดยระบบ AI ของแบรนด์ หรือการคิดค้นสูตรเครื่องสำอางจาก AI
แต่อย่างไรก็ตามต้องมีมาตรการที่ปกป้องข้อมูลของผู้ใช้งาน เพื่อสร้างความไว้วางใจและความโปร่งใส อีกทั้งต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเพราะยังมีความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว
ที่มา : Mintel, 2024 Beauty & Personal Care Trends
แนะนำส่วนผสมที่เกี่ยวข้อง
- RetiLife™ https://linevoom.line.me/post/1168414080036312528
- Sensityl™ https://linevoom.line.me/…/_dckN…/1156091253006063705…
- Synchronight™ https://linevoom.line.me/…/1159893412406068059utm…
- Neuropholine® https://linevoom.line.me/post/1157122120606067528
- CIRCALYS® https://linevoom.line.me/post/1167965031149142169
- Dawnergy™ peptide https://linevoom.line.me/…/_dckN8Jj…/1156165257706066346
หากสนใจสามารถติดต่อฝ่ายขายที่ดูแลหรือสอบถามข้อมูลที่นี่ได้เลยค่ะ ^^
Disclaimer :
All information contained herein is accurate to our best knowledge. However, neither NAMSIANG GROUP nor any of its subsidiaries assumes any liability whatsoever for the accuracy or completeness of the information contained herein. Final determination on suitability of our products should be solely made by the responsibility of the users. Since all materials may present unknown hazards, they should be handled with utmost caution. Although certain hazards are described in the MSDS, we cannot guarantee that these are the only hazards that exist.
#NSG #nsgcosmetics #2024 #BeautyPersonalCareTrend
